รักเพื่อน(สนิท) - รักเพื่อน(สนิท) นิยาย รักเพื่อน(สนิท) : Dek-D.com - Writer

    รักเพื่อน(สนิท)

    คนบางคนทำให้คุณยิ้ม สุข เเละทุกข์ไปพร้อมๆกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    104

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    104

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 เม.ย. 56 / 18:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      มันก็เรื่องธรรมดาของคนที่เเอบรัก(เพื่อน) ...เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่า เป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาที่สวรรค์ทำให้เรามาพบกัน  
      คำถามมันอยู่ในใจตลอดเวลา ว่า มันใช่รึป่าว? เป็นเเบบนี้ดีไหม? เคยถามตัวเองหลายครั้ง บางครั้งก็โมโหตัวเอง ห้ามใจ!!!เรื่องเเค่นี้ ทำไม่ได้
      หัวใจมันอ่อนเเอเหลือเกิน มันคงจะดีมากกว่าถ้าเราไม่ได้พบ ได้เจอกัน เป็นเพื่อนกัน
       
      เรื่องมันเริ่มตอนที่ จบม.6 ฉันได้ที่เรียนต่อ เป็นมหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ ก่อนใกล้จะเปิดเทอมร ก็มีการรายงานตัวนักศึกษาใหม่ รอบเเรกสำหรับคนที่ได้โควตา
      เเละฉันก็อยู่ในรอบนั้น ผู้คนมากมาย มากหน้าหลายตา มารวมตัวกัน หลังจากเเยกสาขาเเล้ว ก็ไปรายงานตัวกับรุ่นพี่ ในรอบนั้นประมาณ20กว่าคนมั้ง ที่จำได้
      เเละหลังจากนั้นไม่นานก็เป็นช่วงสำหรับการรายตัวของนักศึกษาที่สอบเข้า ฉันเเละพวกรอบเเรกก็ต้องมาในรอบนี้ เพื่อนเเต่ละคนที่ฉันเจอต่างเป็นคนที่หน้าตาดี
      เเต่ฉันไม่ได้สนใจใครเลย จนคนๆนึงโผล่มุ่นอย่างบอกไม่า เขาเป็นคนที่ยิ้มเเล้ว ฉันมีความสุข ฉันยังจำใบหน้าในวันที่เจอกันครั้งเเรกได้ เรียกเขาว่าไมค์ (ชื่อสมมุติ) ละกัน
       
      ไม่กี่เดือนก็ถึงค่ายสำหรับเด็กปีหนึ่ง ณ ที่เเห่งหนึ่ง  หลังจากลงรถที่มาส่งเเล้วเราก็เข้าเเถวเพื่อรายงานตัว อยู่ดีๆก็มีเรื่องให้เราได้เจอกัน ฉันได้ทักเขาไป 
      เเต่เขากลับเมินเฉยไม่สนใจในคำพูดที่ฉันพูดเเม้เเต่สักคำ  ในค่ายนั้นเราไม่ได้เจอกันเลยจนเลิกค่ายเเละเริ่มเรียน ฉันก็ลืมเรื่องคนๆนี้ไปจนเกือบหมดสิ้น
      มีบางครั้งที่เราเจอกันบ้าง เเต่ไม่เคยได้พูดกัน ผ่านไปครึ่งเทอมมั้ง เพื่อนอีกคนก็พาเขาเข้ามาให้รู้จัก ฉันไม่กล้าเเม้เเต่จะพูด จ้องหน้า มันไม่รู้ที่จะต้องเริ่มคำพูดไหนก่อน
       
      เข้าสู่ปี1เทอม2 ฉันก็มีกลุ่มเพื่อน เเละเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้น พวกเราเลือกลงเรียนในวิชาเดียวกัน หลังจากนั้นเราก็ได้เรียนด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้สิ 
      ฉันชอบที่จะมองหน้าของเขา ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่สุดเลยละ ทั้งที่เราไม่ได้สนิทกันเลย เเทบจะไม่ค่อยรู้จักกันเลย เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยสนิทกับคนอื่น
      ฉันทำทุกวิถีทาง ที่จะได้อยู่ใกล้ เเละได้พบหน้าเขาตลอด  เเม้กระทั้งดักซุ่มรอฉันก็ยังเคยทำ บางครั้งเเกล้งเดินผ่านๆให้เขาเห็น เเค่นั้นเเหล่ะ ที่ฉันทำได้ เเละคิดว่า
      มันเป็นความสุขที่ฉันทำได้ 
       
      ปี2เรารู้จักกันมากขึ้น รู้ว่าเขาชื่ออะไร เขาเคยเรียนที่ไหนมา ชื่อจริง นามสกุล รหัสนักศึกษา เบอร์โทรศัพท์ ป้ายทะเบียนรถ บางคนคิดว่ามันอาจจะฟังดูเวอร์ๆไป
      เเต่จริงๆเเล้วถ้าคุณชอบใครสักคน รายละเอียดทุกเม็ดที่เก็บได้จากเขาคุณจะไม่ลืมเเม้เเต่นิดเดียว เรารวมกันอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ไปมาหาสู่กัน ไปกินข้าวด้วยกัน
      เที่ยวด้วยกัน ฉันยังจำได้ ครั้งเเรกที่ชวนเขานอกจากไปเรียน คือไปงานวันเกิดเพื่อนคนหนึ่ง เราไปกินเหล้าร้านนึง เสร็จเเล้วก็พากันไปต่อที่ผับเเห่งหนึ่งเเถวนิมมานทร์
      เมื่อเข้าไปในผับ เขาเลือกที่จะยืนข้างๆฉัน เขาเต้นไม่เก่ง ร้องไม่เก่ง เพราะเเนวเพลงของเขามันอินดี้ ฮ่าๆ ชอบตรงเขาเข้าผับเเล้วหนิมเนี่ยเเหละ มันน่ารักซะเหลือเกิน
      หลังจากต่างคนต่างเมาก็เเยกย้ายกันกลับหอพัก  หลังจากนั้นเราคุยกันมากขึ้นทั้งต่อหน้าเเละfacebook เเต่รู้สึกว่าต่อหน้าฉันก็ยังพูดติดๆขัดๆยังไงก็ไม่รู้
      ครั้งที่สอง เราก็ไปงานวันเกิดเพื่อน หลังจากดื่มร้านเเรกเสร็จ พวกเราก็พากันไปต่อที่ มันเป็นร้านสำหรับเเนวเพื่อชีวิต (ร้านใหญ่ๆเป็นที่รู้จักขอคนทั่วไปที่นิมมานทร์นั้นหละ ไม่ขอเอ่ยชื่อ)
      ฉันยอมรับ ว่าวันนั้นฉันเมาจริงๆ ฝนเริ่มตกหลังจากร้านใกลปิด  เเละคนที่พาฉันกลับบ้านคือเขา ไมค์นั่นเอง เมื่อขึ้นรถเขาเอามือของฉันไปกอดที่เอวเขา เเล้วเขาก็บอกให้กอดเเน่นๆ ฉันจำน้ำเสียงนั้นได้
      ฉันซ้อนรถเขาไปมือก็กอดเอวเขา หน้าก็ซบตรงหลังเขา ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อยากให้เวลานั้นหยุดหมุนไปเลยทีเดียว เมื่อถึงหอเขาก็ส่งฉันถึงห้อง 
      เเละเขาก็กลับไป  
       
      ช่วงหลังเราสนิทกันมาก สนิทมากกว่าเพื่อนคนอื่น ฉันให้เขาเป็นเพื่อนสนิท เมื่อมีงานฉันจะรีบบอกเขาทันทีว่าทำอย่างไร คอยดูว่าเขามีปัญหาอะไรไหม เราไปไหน
      มาไหนด้วยกันสองคนมากขึ้น ตั้งเเต่ กินข้าว ดูหนัง ไปซื้อของ เราก็ทำด้วยกัน  เรามีอะไรที่ชอบเหมือนกันหลายๆอย่าง ฉันคิดว่าเขานี่เเหล่ะ คือคนที่ใช่สำหรับฉัน
      เเต่ความสุขอยู่กับเราได้ไม่นาน..ก็มีเรื่องให้ฉันเสียใจ เขาไม่เคยที่จะพูดเรื่องเเฟนให้ฉันฟังเลย ก็เพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดนี่หล่ะ เเค่นั้นมันยังไม่ทำให้เจ็บเท่า
      พาเเฟนของเขามาเจอกับฉันในตอนที่เราเเละเพื่อนไปเที่ยวทีเเรกฉันบอกกับเขาว่าฉันไม่ไป เเต่เขาถามว่าทำไม เเละพยายามทำให้ฉันไป  เมื่อเราพบกันฉันทำอะไรไม่ถูกเลย ได้เเต่ยิ้ม
      เขาไม่สนใจฉันเลยทั้งๆที่ชวนฉันไปด้วย ก็ใช่เเฟนต้องสำคัญกว่าสิ ก็ได้เเต่นั่งเงียบ อยู่คนเดียว ฉันจึงตัดสินใจว่าจะไม่ติดต่อกับเขาอีกเลย เราเริ่มห่างกัน ไม่พูดกัน
      เเต่ข้างในใจฉันมันเจ็บปวดมาก ทุกครั้งที่เห็นเขา ผ่านไปหลายสัปดาห์ ฉันก็ทนไม่ไหว กลับไปคุยกัน เเละทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม คือฉันเป็นเพื่อนสนิทเขา
      เรามีช่วงเวลาดีๆให้เเก่กัน จนทำให้ฉันลืมคนเย็นชาคนก่อน คนที่ไม่เคยใส่ใจคนอื่นไป จนถึงช่วงปิดเทอมปี2 เราก็ได้เจอกันไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอ เเต่พักหลังๆฉันคุยกับเขามากขึ้น จนบางครั้งอาจทำให้รู้ว่าฉันชอบเขา
      เขาเริ่มตีตัวออกห่าง เวลาพูดกันมีเเต่คำว่า อือ อืม ฮ่าๆ อ่าๆ เเล้วเเต่ ดีละ รอว่างๆ ไม่เหมือนเเต่ก่อน ทั้งที่ฉันถามเเละอคำตอบด้วยความใส่ใจ เเต่คำตอบที่ได้มา
      มันเป็นคำที่พิมพ์ผ่านๆ ให้พ้นไป ไม่เคยทักฉันมาก่อนเหมือนเคย ไม่ชวนฉันเล่นเกมส์เหมือนเเต่ก่อน ฉันคิดทบทวน เรื่องราวอีกครั้ง เขาคงต้องการให้เราไม่ไปยุ่งกับเขาอีก
      ทั้งที่เขาเคยสัญญาว่า จะไม่รำคาญ ในสิ่งที่ฉันถามเเม้เเต่นิดเดียว เเต่คำตอบที่ได้มามันก็ชัดเจนอยู่เเล้ว
       
      ฉันติดสินใจที่จะไม่ติดต่อเขาอีกครั้งเพื่อให้ฉันทำใจได้ เเต่ฉันไม่มีที่จะระบายความรู้สึกครั้งนี้ ก็ได้เเต่หวังว่าจะมีใครสักคนทคที่เจอเหตุการณ์เเบบนี้ เเละเข้าใจความ
      รู้สึกของฉันที่เป็นอยู่ มันเหมือนในละครเลยละ นั่งพิมไปร้องไห้ไป ฮ่าๆ อาจจะไร้สาระ เเต่อยากบอกให้คนนั้นรู้ว่าฉันยังรักเขา ทุกๆวัน ถึงเเม้จะไม่ได้ติดต่อกันอีก
      อยากจะบอกว่า "ถ้าเธอไม่คุยกับเราก่อน เราจะไม่คุยกับนายก่อน ไม่ใช่ว่าฉันน้อยใจนะ เเต่ไม่อยากให้เธอรำคาญเราไปมากกว่านี้  เรารู้เเละเข้าใจดี ว่าเราเป็นได้เเค่นี้ เเค่เพื่อนที่อาจจะไม่สนิทอีกต้อไป"
       
      เพราะเธอเป็นคนที่เย็นชา  ฉันอยากรู้ความรู้สึกของเธอจริงๆ .....T^T
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×